guideubon

 

สายสกุลที่สืบจาก พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง)

สายสกุล-เจ้าคำผง-01.jpg

พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรก เป็นบุตรของเจ้าพระตาและนางบุศดี เกิดเมื่อ พ.ศ.2252 ณ นครเวียงจันทน์ ท่านเป็นหลานปู่เจ้าปางคำ ราชวงศ์เชียงรุ้ง ผู้สร้างเมืองหนองบัวลุ่มภู (จังหวัดหนองบัวลำภูในปัจจุบัน) หรือนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน

สายสกุล-เจ้าคำผง-06.jpg

ในปี พ.ศ.2311 เจ้าพระตากับเจ้าพระวอ เกิดผิดใจกันกับพระเจ้าสิริบุญสารแห่งเวียงจันทน์ ฝ่ายเวียงจันทน์ได้ยกทัพมาตีเมืองหนองบัวลุ่มภู ต่อสู้กันอยู่ 3 ปี ฝ่ายเมืองหนองบัวลุ่มภูเห็นว่า นานไปจะสู้ฝ่ายเวียงจันทน์ไม่ได้แน่ จึงไปขอกองทัพจากพม่าที่เชียงใหม่มาช่วยรบ แต่กองทัพพม่าได้ยกมาสมทบกับกองทัพเวียงจันทน์ตีเมืองหนองบัวลุ่มภูแตก เจ้าพระตาตายในสนามรบ

เมื่อเมืองหนองบัวลุ่มภูแตก เจ้าพระตาตายในสนามรบ เจ้าพระวอกับเจ้าคำผงและพวก จึงต้องทิ้งเมือง หนีไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จนได้ไปอาศัยพระเจ้าองค์หลวงไชยกุมารแห่งนครจำปาศักดิ์ โดยตั้งค่ายอยู่บ้านดู่บ้านแก แขวงเมืองจำปาศักดิ์ พระเจ้าองค์หลวงไชยกุมารได้ขอเอาเจ้านางตุ่ย พระธิดาของเจ้าอุปราชธรรมเทโว ให้เป็นชายาของเจ้าคำผง และทรงแต่งตั้งให้เจ้าคำผงเป็นพระปทุมสุรราช ผู้ช่วยเจ้าพระวอ นายกองนอก ต่อมาพระปทุมสุรราชจึงทรงขออพยพมาอยู่ดอนมดแดง

หลังจากที่พระปทุมสุรราชทรงขออพยพมาอยู่ดอนมดแดง แล้วพระเจ้าสิริบุญสารได้ทราบว่า เจ้าพระวอกับพวกมาตั้งอยู่ที่ค่ายบ้านดู่บ้านแกแขวงเมืองนครจำปาศักดิ์ และเจ้าพระวอมีกำลังพลน้อย จึงให้พระยาสุโพยกทัพมาตีค่ายบ้านดู่บ้านแกแตก เจ้าพระวอตายในที่รบ พระปทุมสุรราช (เจ้าคำผง) เห็นว่าจะสู้กองทัพเวียงจันทน์ไม่ได้ จึงขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพมาช่วย เมื่อทราบสาเหตุจากพระปทุมสุรราชแล้ว จึงยกทัพตามตีทัพพระยาสุโพไปจนถึงเวียงจันทน์ ได้รบกันอยู่ 4 เดือน เวียงจันทน์จึงแตกเมื่อ พ.ศ. 2322 (สงครามครั้งนี้ส่งผลให้อาณาจักรล้านช้างทั้ง 3 แห่ง ตกเป็นประเทศราชของไทยสืบมา จนกระทั่งไทยเสียดินแดนเหล่านี้ให้แก่ฝรั่งเศสในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วย)

สายสกุล-เจ้าคำผง-05.jpg

ในปี พ.ศ.2319 เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ดอนมดแดง พระประทุมสุรราชจึงทรงพาไพร่พลอพยพหนีน้ำมาอยู่ที่ดอนริมห้วยแจระแม (อยู่เหนือตัวเมืองอุบลราชธานีปัจจุบันประมาณ 8 ก.ม.) เมื่อน้ำลดจึงย้ายไปที่ดงอู่ผึ้ง ริมแม่น้ำมูลเพื่อสร้างเมืองใหม่ เมื่อแล้วเสร็จจึงมีใบบอกลงไปกราบทูลพระเจ้ากรุงธนบุรีขอตั้งเป็นเมืองอุบล พระเจ้ากรุงธนบุรีให้ตั้งเมืองตามที่ขอไป โปรดเกล้าฯ ให้พระปทุมสุรราชเป็น "พระปทุมราชวงศา" เจ้าเมืองอุบลองค์แรกเมื่อ พ.ศ.2321

เมื่อพระประทุมราชวงศาร่วมมือกับเจ้าฝ่ายหน้าผู้เป็นน้องชาย ซึ่งไปตั้งกองนอกเก็บส่วยอยู่ที่บ้านสิงห์ท่า (เมืองยโสธรในเวลาต่อมา) และกองทัพเมืองนครราชสีมาช่วยกันปราบกบฏอ้ายเชียงแก้วได้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระประทุมราชวงศา เป็น "พระประทุมวรราชสุริยวงษ์" และเสริมนามเมืองอุบลขึ้นเป็น "เมืองอุบลราชธานีศรีวนาไลประเทศราช" ขึ้นตรงต่อกรุงเทพ เมื่อวันจันทร์ แรม 13 ค่ำ เดือน 8 จุลศักราช 1154 (พ.ศ.2335) ส่วนเจ้าฝ่ายหน้าก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าเมืองนครจำปาศักดิ์ มีบรรดาศักดิ์เป็นพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช

พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ครองเมืองอุบลราชธานีตั้งแต่ตั้งเมืองมาเป็นเวลา 17 ปี จนถึง พ.ศ.2338 จึงถึงแก่อนิจกรรม สิริรวมอายุได้ 85 ปี มีการทำพิธีเผาพระศพด้วยเมรุนกสักกะไดลิงก์ที่ทุ่งศรีเมือง แล้วเก็บอัฐิบรรจุธาตุไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองตรงบริเวณที่เป็นธนาคารออมสิน สาขาอุบลฯ ทุกวันนี้ ต่อมาภายหลังมีสร้างเรือนจำขึ้นในบริเวณนั้น จึงย้ายอัฐิไปไว้ที่วัดหลวง และยังอยู่จนปัจจุบัน ปัจจุบันมีอนุสาวรีย์ของพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ ประดิษฐานอยู่ที่ริมทุ่งศรีเมือง กลางเมืองอุบลราชธานี

สายสกุล-เจ้าคำผง-03.jpg

พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ เป็นต้นกำเนิดของสายสกุลต่างๆ ในเมืองอุบลราชธานีหลายสกุล เช่น

ณ อุบล สกุลนี้สืบเชื้อสายเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 1 ผู้ขอรับพระราชทานนามสกุลสายนี้คือ พระอุบลเดชประชารักษ์ (เสือ ณ อุบล) กรมการเมืองพิเศษเมืองอุบลราชธานีในสมัยรัชกาลที่ 5

สุวรรณกูฏ สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางพระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (กุทอง สุวรรณกูฏ) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 3 บุตรในเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ผู้ขอรับพระราชทานนามสกุลคือ รองอำมาตย์เอก พระบริคุฏคามเขต (โหง่นคำ สุวรรณกูฏ)

สายสกุล-เจ้าคำผง-02.jpg

สิงหัษฐิต สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทาง ท้าวสิงผู้เป็นบุตรของเจ้าพระตา ผู้ขอรับพระราชทานนามสกุล คือ อำมาตย์ตรี พระวิภาคย์พจนกิจ (เล็ก สิงหัษฐิต) บิดาของนายเติม วิภาคย์พจนกิจ ผู้เขียนหนังสือ ฝั่งขวาแม่น้ำโขง และ ประวัติศาสตร์อีสาน

บุตโรบล สายนี้สืบมาจากท้าวโคตซึ่งเป็นบุตรในเจ้าพระตา และเป็นอนุชาในพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ผู้รับพระราชทานสกุลคือ ร้อยโท พระอุบลกิจประชากร (บุญเพ็ง บุตโรบล) สายสกุลนี้เป็นสายสกุลของอัญญานางเจียงคำ บุตโรบล (หม่อมเจียงคำ ชุมพล ณ อยุธยา) ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์

พรหมวงศานนท์ สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางท้าวพรหมวงษา ผู้ขอรับพระราชทานนามสกุลคือ รองอำมาตย์โท พระอุบลการประชานิตย์ (บุญชู พรหมวงศานนท์) อดีตข้าหลวงบริเวณอุบลราชธานี (2450)

ทองพิทักษ์ สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางเจ้าอุปฮาด (สุดตา) เชษฐาของพระพรหมราชวงศา (กุทอง สุวรรณกูฏ) พระราชโอรสในเจ้าพระประทุมวรราชสุริยวงศ์

อมรดลใจ สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางพระอมรดลใจ (อ้ม สุวรรณกูฏ) เจ้าเมืองตระการพืชผลองค์แรก ท่านเป็นบุตรในพระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (กุทอง สุวรรณกูฏ) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 3 และเป็นเขยในเจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์

โทนุบล สกุลนี้สืบเชื้อสายผ่านทางเจ้าเมืองมหาชนะชัย หรือท้าวคำพูน สุวรรณกูฏ ผู้เป็นบุตรในพระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (กุทอง สุวรรณกูฏ) เจ้าเมืองอุบลราชธานีลำดับที่ 3 โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามท้าวคำพูนว่า พระเรืองชัยชนะ เจ้าเมืองมหาชนะชัย ขึ้นตรงต่อเมืองอุบลราชธานี ต่อมาภายหลังเมืองมหาชนะชัยได้ถูกลดฐานะเป็นอำเภอภายใต้การปกครองของเมืองอุบลราชธานี โดยมีหลวงวัฒนวงศ์ โทนุบล (โทน สุวรรณกูฏ) ผู้เป็นนัดดาในพระเรืองชัยชนะ เป็นนายอำเภอคนแรก 

สายสกุล-เจ้าคำผง-04.jpg

 

copyright 2005 www.GuideUbon.com สำนักงานไกด์อุบลดอทคอม เลขที่ 89/1 ถนนพโลรังฤทธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000 ติดต่อไกด์อุบล : webmaster@guideubon.com | msn : guide_ubon@hotmail.com | Tel : 080-4850511