guideubon

 

ทายาทเชลยศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ตามรอยอนุสาวรีย์แห่งความดี

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-03.jpg

ตามรอยพ่อ มิสเตอร์เดวิท เดินทางมากจากอังกฤษตามรอยประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งคุณพ่อ คือ มิสเตอร์โรเบิร์ด ตกเป็นเชลยศึกทหารญี่ปุ่นเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ทหารเชลยศึกเหล่านี้มาถึงอุบลราชธานีโดยรถไฟ และถูกขังไว้ที่บ้านหนองไผ่ เลยบ้านด้ามพร้าในปัจจุบัน

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-02.jpg

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 มิสเตอร์เรย์และมิสเตอร์เดวิท ลูกหลานของทหารเชลยศึกประเทศฝ่ายสัมพันธมิตร ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าพบคุณพ่อสุวิชช คูณผล ประธานมูลนิธิเจ้าคำผง ปราชญ์เมืองอุบลฯ เพื่อสืบค้นประว้ติและความเป็นมาของอนุสาวรีย์แหงความดี หนึ่งเดียวในโลก ที่ถูกสร้างขึ้นที่ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยฝีมือทหารเชลยศึกเมื่อกว่า 60 ปีมาแล้ว

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-04.jpg

สำหรับ อนุสาวรีย์แห่งความดีชาวอุบลราชธานี นี้ ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศเหนือของทุ่งศรีเมือง ติดกับโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี ย้อนหลังไปเมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา ในปี พ.ศ.2484 ประเทศญี่ปุ่นได้ส่งทหารเข้าสู่ประเทศไทย และได้จับทหารของฝ่ายสัมพันธมิตรไว้เป็นเชลยศึกจำนวนมาก

จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ญี่ปุ่นได้ใช้เป็นที่กักกันเชลยศึก ซึ่งประกอบด้วยชาวออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ฯลฯ ทหารเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เป็นที่น่าเวทนาต่อชาวอุบลฯ ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นคนมีจิตเมตาสงสาร จึงได้พากันนำเอาอาหารเครื่องนุ่งห่มมาให้เชลยศึกเหล่านี้ แต่ก็ได้รับการขัดขวางจากทหารญี่ปุ่น ถึงขั้นทำร้ายลงโทษ แต่ชาวอุบลฯ ก็ยังแอบเอาอาหารและเครื่องใช้ไปให้เชลยศึกเหล่านี้ ด้วยความเมตตาอย่างไม่เกรงกลัวต่อภัยอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-05.jpg

ด้วยความดีดังกล่าว ภายหลังสงครามมหาเอเชียบูรพาสิ้นสุดลง ฝ่ายสัมพันธมิตรซึ่งเป็นเชลยศึกเหล่านี้ ได้ถูกปลดปล่อย และได้ระลึกถึงคุณงามความดีของชาวอุบลราชธานี ที่มีจิตเมตตากรุณา จึงได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการระลึกว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขาได้เคยเป็นเชลยศึกอยู่ที่นี่ และได้รับความเมตตากรุณาจากชาวอุบลราชธานี จนทำให้มีกำลังในที่จะต่อสู้เพื่อให้ชีวิตรอดต่อไป และพร้อมใจกันให้นามอนุสาวรีย์แห่งนี้ว่า อนุสาวรีย์แห่งความดี (The Monument of Merit) โดยในวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี จะมีชาวต่างประเทศเช่น ประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ ได้เดินทางมาที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสักการะและให้ความสำคัญกับอนุสาวรีย์แห่งความดี ที่เชลยศึกและลูกหลาน ได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์ 

และจากการสอบถามชาวต่างประเทศคือ มิสเตอร์ทอม พอร์ตเตอร์ อายุ 72 ปี ลูกครึ่งอังกฤษ-ออสเตรเลีย และมิสเตอร์ไอน์ ลีเวลลี่ ชาวออสเตรเลีย อายุ 60 ปี ที่มาร่วมสักการะอนุสาวรีย์แห่งความดีในปี 2550 ให้ข้อมูลว่า เมืองอุบลราชธานี เป็นเมืองคนดี ในอดีตเมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา มีบรรพบุรุษที่เป็นญาติๆ ได้ถูกทหารญี่ปุ่นกักกันไว้ที่อุบลราชธานี และมีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นแสนสาหัส  ต่อมาเมื่อสงครามสงบ เหล่าทหารที่เคยเป็นเชลยศึกและลูกหลาน ได้มีโอกาสกลับมาร่วมรบในสงครามเวียดนาม และได้มาประจำอยู่ที่อุบลราชธานี จึงได้พร้อมใจกันสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ไว้ เพื่อเป็นอนุสาวรีย์แห่งความดีของชาวอุบลราชธานี

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-10.jpg

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-11.jpg

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-12.jpg

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-09.jpg

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-06.jpg

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-07.jpg

เชลยศึกญี่ปุ่น-อนุสาวรีย์แห่งความดี-08.jpg