เด็กผู้หญิงหลายๆ คน คงมีความฝันว่า โตขึ้นอยากเป็น "ครู" เช่นเดียวกับ "แตงกี้" ศิริรัตน์ ณะอุบล มิสแกรนด์อุบลราชธานี 2019 หากแต่ความฝันของเด็กผู้หญิงชื่อ แตงกี้ มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ เธอต้องทำงานพิเศษหาเงินเรียนด้วยตัวเอง แม้ยามคุณพ่อเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล เธอก็ยังต้องไปเฝ้าคุณพ่อ ทำงาน และเรียนหนังสือ แต่ความยากลำบากเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้เธอท้อแท้แต่อย่างใด แตงกี้ กำลังจะเรียนจบคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

"แตงกี้" ศิริรัตน์ ณะอุบล นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู หรือคุณครูฝึกสอน ชั้นปีที่ 5 วิชาเอกสังคมศึกษา จากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้ยื่นใบลากิจต่อผู้อำนวยการโรงเรียนนารีนุกูล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เพื่อไปทำหน้าที่ในนามตัวแทนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ในอีกหนึ่งความฝันของเธอ คือการเข้าร่วมประกวด “Miss Grand Thailand 2019” ในฐานะ “Miss Grand Ubon Ratchathani” ที่กรุงเทพมหานคร

แตงกี้ เป็นเด็กสาวจากอำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีความฝันอยากเป็นครูตามแบบของเด็กสาวอีกหลาย ๆ คน ภายหลังจากเรียนจบชั้น ม.6 จึงเลือกเรียนต่อที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งเธอเล่าว่า “ใฝ่ฝันอยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็ก อยากรับราชการและเป็นที่พึ่งของครอบครัว” ซึ่งเป็นครอบครัวเกษตรกรที่ทุกคนในบ้านต้องทำงานหนักมาทั้งชีวิต และด้วยการเป็นเด็กสดใสร่าเริง กล้าแสดงออก ทำให้คุณครูมักเลือกให้เป็นตัวแทนของโรงเรียนทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งในระดับประถมศึกษาที่เธอชนะเลิศในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่สังกัดในเพลง “น.ส.แนนซี่” หรือการประกวดโครงงานคุณธรรมในชื่อ “รักนวลสงวนตัวของวัยรุ่นยุคใหม่” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเช่นเดียวกันในระดับมัธยมศึกษา

ส่วนการเรียนในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี นั้น เธอบอกว่าได้ประสบการณ์ต่าง ๆ มากมายตั้งแต่เข้าเรียนชั้นปีที่ 1 เป็นต้นมา โดยต้องบอกว่าเป็น “เด็กกิจกรรมของจริง” ในชั้นปีที่ 1 นั้นแตงกี้ผ่านมาทั้งการประกวด Freshy Girl ของคณะ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ออกค่ายอาสา พอชั้นปี 2 – 3 ก็เล่นกีฬา เป็นนักวอลเล่ย์บอล นักบาสเกตบอลของคณะ ขายดอกไม้ในวันวาเลนไทน์ ขายดอกมะลิในวันแม่ เพื่อนำเงินรายได้ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ของสาขา และเคยมีโอกาสไปประกวดมิสมอเตอร์โชว์ที่จังหวัดนครราชสีมา เธอเล่าว่า “แตงต้องนั่งรถไฟจากอุบลฯ ไปกับเพื่อนอีกคน แล้วนั่งรถไฟกลับมา” แม้การประกวดครั้งนี้เธอจะไม่ได้รางวัลอะไรเลย แต่สิ่งที่มีเพิ่มขึ้นคือประสบการณ์อันล้ำค่าในการขึ้นเวทีประกวดครั้งแรก

นอกจากในชีวิตการเรียนและการทำกิจกรรมแล้ว อีกสิ่งที่แตงกี้ต้องทำคือการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตัวเอง ด้วยการทำงานพิเศษนอกเวลาเรียนมาโดยตลอด ทั้งการเป็นเด็กเสิร์ฟ เป็นพนักงานโรงภาพยนตร์ตั้งแต่ยังเรียนชั้นปีที่ 1 “จำได้ว่าตอนนั้น หนังเรื่อง Fast8 เข้าฉาย โรงหนังที่แตงทำงานต้องเพิ่มรอบฉาย รอบสุดท้ายไปจบเอาตี 3 กว่าจะได้กลับหอ และนั่งทำงานส่งอาจารย์ต่อจนเช้า เสร็จแล้วอาบน้ำไปเรียนต่อเลย” เธอเล่าพร้อมหัวเราะ และยืนยันว่าการทำงานพิเศษระหว่างเรียนทำให้เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่เร็วขึ้น รับผิดชอบตัวเอง และมีความอดทนสูง

“เวลาที่เรียนเสร็จ อาจารย์สั่งงานใด ๆ ต้องรีบทำรีบเคลียร์ให้เสร็จทันทีค่ะ โดยเฉพาะงานกลุ่มต้องรีบทำก่อนที่เพื่อน ๆ จะแยกย้ายกันจนหาตัวยาก เพราะนอกเวลาเรียนพวกเราทั้งทำกิจกรรมนักศึกษาและหลายคนต้องไปทำงานพิเศษช่วยเหลือตัวเอง... ส่วนเวลาอ่านหนังสือก็จะน้อยลง เพราะเราทำงานพิเศษนอกเวลา ดังนั้น ในห้องเรียนต้องตั้งใจและทำความเข้าใจให้มากที่สุดค่ะ” ด้วยวิธีนี้เองทำให้ปัจจุบัน แตงกี้เป็นนักศึกษาที่เรียนเก่งมากคนหนึ่ง อยู่ในเกณฑ์ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.78

แต่ในชีวิตก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องสะดุดและเสียใจอยู่พักใหญ่ “เมื่อปีที่แล้ว พ่อของแตงป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย” เธอเล่า ช่วงนั้นแตงกี้ทำงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลิกงานเที่ยงคืน แล้วเธอต้องไปผลัดเปลี่ยนเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์จนรุ่งเช้าทุกวัน พอเช้าก็กลับหอไปอาบน้ำแล้วไปเรียนหนังสือต่อ “ชีวิตช่วงนั้นลำบากมาก เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังจะประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่นานต่อมาพ่อของแตงกี้ท่านก็เสียชีวิตลง เงินที่เธอสะสมไว้ในการทำงานพิเศษตั้งแต่ปี 1 ร่วมแสนบาท ถูกใช้ไปในการรักษาพ่อ แม้จะรักษาชีวิตพ่อไว้ไม่ได้ แต่เธอภาคภูมิใจที่อย่างน้อย ๆ เป็นก็พยายามอย่างเต็มที่และเอาเหตุการณ์นี้มาเป็นแรงผลักดันที่จะต้องสำเร็จการศึกษาและเป็นครูให้ได้ เพื่อดูแลแม่และน้องที่ยังอยู่ข้างหลัง

ชีวิตนักศึกษาครูชั้นปีที่ 5 ชั้นปีสุดท้าย มาถึงช่วงสำคัญช่วงหนึ่งที่ต้องออกฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู หรือการฝึกสอน “ปี 5 แล้ว เริ่มมุ่งมั่นตั้งใจกับการอ่านหนังสือสอบบรรจุค่ะ” เธอเลือกออกฝึกสอนที่โรงเรียนนารีนุกูล ที่อยู่ในเมืองและใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย เพราะยังต้องทำงานพิเศษนอกเวลา และมาดูน้องๆ เอกสังคมศึกษาทำกิจกรรมนักศึกษาในคณะ และเมื่อมีการรับสมัครประกวดมิสแกรนด์อุบลราชธานี “ตอนแรกแตงไม่ได้คิดว่าจะประกวดค่ะ เพราะยังใส่เหล็กจัดฟันอยู่ จนพี่ๆ เพื่อนๆ ช่วยกันหว่านล้อมชักจูง ถึงขนาดบอกว่าจะจ่ายชดเชยค่าจัดฟันให้ (หัวเราะ)” จึงตัดสินใจเข้าประกวด และสามารถคว้ามงกุฎ “มิสแกรนด์อุบลราชธานี” มาครอบครองได้สำเร็จ เป็นตัวแทนชาวอุบลราชธานี เข้าประกวด “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019”

แม้การดำรงตำแหน่ง “มิสแกรนด์อุบลราชธานี” อาจทำให้ความฝันในการเป็น “ครู” ของเธอล่าช้าออกไป แต่ประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ตรงหน้าที่รออยู่ วันนี้เธอตัดสินใจลากิจในการเป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูออกไป 1 เดือน เพื่อไปหาประสบการณ์ครั้งใหญ่ในการเป็นตัวแทนชาวอุบลราชธานี เข้าร่วมการประกวด “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019” ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ เธอเชื่อว่าประสบการณ์นี้ จะช่วยให้เธอสามารถเป็น “ครูที่ดี” ได้ในอนาคต ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยคติประจำใจว่า “ได้ทำแล้วเสียใจ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ”

"แตงกี้" ศิริรัตน์ ณะอุบล นับว่าเป็นแม่พิมพ์ที่น่าภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และเป็นแม่แบบให้เด็กรุ่นใหม่ได้ดูเป็นตัวอย่างถึงความมานะ อดทน ต่อสู้กับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต อีกทั้งยังเป็นผู้ใฝ่เรียน ไม่ละทิ้งการเรียนแม้ยามเหนื่อยยาก กระทั่งสามารถเรียนจบปริญญาตรีในระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ได้อีกด้วย

ขอเชิญชวนชาวอุบลราชธานี ร่วมส่งแรงเชียร์ แรงใจให้ "แตงกี้" ศิริรัตน์ ณะอุบล ในการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019 ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2562 โดยกดลิงก์นี้  https://www.facebook.com/missgrandthailand/photos/a.1845383772274536/1845386492274264/?type=3&theater แล้ว กด Like ที่ภาพพี่แตงกี้ 1 Like = 1 Vote #แตงกี้ #MGT76 เพื่อให้แตงกี้ ตัวแทนหนึ่งเดียวของชาวอุบลราชธานี ได้รับตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน

ภาพ/ข่าว โดย ว่าที่ร้อยตรี เชษฐ์ ศรีไมตรี รองอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและการเรียนรู้ ม.ราชภัฏอุบลฯ

เรียบเรียงโดย ไกด์อุบล