guideubon

 

จากเด็กผลการเรียนรั้งท้าย มุมานะจนได้ติดยศนายพัน

Chanut-Thongon-01.jpg

ภาพนายตำรวจนั่งย่อให้มารดาประดับดาวแปดแฉกมงกุฎครอบ อันหมายถึงยศพันตำรวจตรี พร้อมกับข้อความว่า "ให้แม่ประดับยศก่อนไปทำงาน" สร้างความประทับใจและยินดีกับเพื่อนและคนรู้จักที่ได้พบเห็น โดยบุคคลในภาพนั้นคือ ว่าที่ พ.ต.ต.ชนุตม์ ทองอ่อน (รอพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ) หรือ "ต๊ะ" ที่เพื่อนๆ เรียกนั่นเอง อาจมีคนอุบลฯ หลายคนที่เติบโตในแวดวงทหารตำรวจจนถึงระดับยศนายพล แต่กับ ต๊ะ ต้องถือว่าชีวิตพลิกผันสุดๆ จากเด็กที่เรียนไม่เก่ง จัดอยู่ในกลุ่มรั้งท้ายของห้อง ต้องใช้ความมุมานะ พยายามอยู่หลายครั้ง กว่าจะมีวันนี้ วันที่ทำเพื่ออนาคตของตัวเอง และทำเพื่อให้แม่ภาคภูมิใจ

Chanut-Thongon-02.jpg

ว่าที่ พ.ต.ต.ชนุตม์ ทองอ่อน "ต๊ะ" ให้สัมภาษณ์กับไกด์อุบลว่า ตนเป็นเด็กอุบลฯ มีคุณพ่อคุณแม่รับราชการเป็นครูโรงเรียนชั้นประถมศึกษา ชีวิตในวัยเด็ก เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว ถือว่ากดดันมาก เพราะเนื่องจากคุณแม่ก็เป็นครูอยู่ที่นี่ แถมตัวเองก็เรียนไม่เก่ง ซน ไม่อยากเรียน มักจะโดนเปรียบเทียบกับลูกข้างบ้านเสมอว่า ทำไมไม่เก่งเหมือนเขา จริงๆ ในตอนนั้นไม่อยากเรียนวิชาคณิตศาสตร์เลย ไม่อยากรับรู้เกี่ยวกับวิชานี้เลย แม่ก็พยายามสอนจนต้องให้ครูอื่นมาสอน แต่ก็ยังไม่เก่งอยู่ดี จบชั้นประถมแบบกระท่อนกระแท่น แต่ก็ยังสอบเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุบลราชธานีอย่าง โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ได้

ที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช ชั้นมัธยมต้น รอลุ้นแต่ว่าภาคเรียนนี้จะได้ 0 กี่ตัว ส่วนใหญ่วิชาคณิตศาสตร์ไม่ 0 ก็ 1 ได้เกรดเฉลี่ย 1.78 จนจบ ม.3 ดีขึ้นนิดหน่อย ได้เกรดเฉลี่ย 1.98 เรียนต่อ ม.ปลาย ที่โรงเรียนเดิม สมัยนั้นการเป็นทหาร ตำรวจ เป็นความใฝ่ฝันของเด็กผู้ชายส่วนมาก แต่สำหรับ ต๊ะ ไม่เคยมีความคิดในหัวว่าจะสอบเตรียมทหารเป็นตำรวจได้เลย คิดอยู่เสมอว่าตัวเองเรียนแค่นี้จะสอบได้อย่างไร คนอื่นไปติวเพื่อเตรียมสอบโรงเรียนเตรียมทหาร แต่กับตัวเองติวเพื่อไม่ให้ติด 0 เท่านั้น จนจบ ม.6 ได้เกรดเฉลี่ยสูงสุด 2.50 ไม่เคยได้เกรด 3-4 กับเขาเลย มีความสุขกับการวิชาเกษตรมากกว่า เพราะแค่รถน้ำต้นไม้เช้าเย็น อย่าให้ต้นไม่ตายก็พอ

ช่วงสอบเอ็นทรานต์เป็นช่วงที่กดดันมากๆ  เพราะเพื่อนหลายคนสอบได้ ได้มหาวิทยาลัยดังๆ แต่เราสอบไม่ติดสักที่เลย ยิ่งพี่สาวทั้ง 2 คน สอบติดได้อยู่มหาวิทยาลัยรัฐใกล้บ้านแล้ว ยิ่งเพิ่มความกดดันเป็นหลายเท่า แต่แม่มาให้กำลังใจบอกว่าไม่ต้องห่วงนะลูก แม่เองก็จบจากวิทยาลัยครูอุบล แม่ก็ได้ทำงาน เรามานั่งคิดใหม่ว่าจุดมุ่งหมายของเราคืออะไร ในครอบครัวข้าราชการ ยังยึดติดกับคำว่า “ข้าราชการ” ซึ่งเป็นหลักที่ตัดสินใจไปเรียนคณะรัฐประศาสนศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เพราะสามารถไปข้าราชการได้หลายอย่าง โดยคิดว่าอยากทำงานราชการ เพื่อความมั่นคง

Chanut-Thongon-03.jpg

หลังจากจบปริญญาตรีแล้ว ก็ยังไม่ได้รับราชการตามที่หวัง ได้ทำงานเป็นพนักงานจ้างทั่วไปที่เทศบาลนครอุบลฯ ระหว่างนั้นก็เดินสายสอบรับราชการและเรียนต่อในระดับปริญญาโท จนจบคณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งการสอบแข่งขันข้าราชการนั้นไม่ง่ายเลย ในแต่ละครั้ง ตำแหน่งมีแค่ 10 แต่คนสมัครมีเป็นหมื่นๆ คน ทำได้แค่เป็นอันดับสำรองหลายๆ สนามสอบ ทั้ง สอบ กพ. และท้องถิ่น ในระหว่างที่สอบไปเรื่อยๆ ต้องเสียค่าเดินทางมาก และรบกวนน้าและน้าเขยในการเดินทางไปพักอาศัยอยู่บ่อยครั้ง จนรู้สึกท้อใจและแทบจะถอดใจแล้ว

อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันชวนให้ลองมาสอบนายสิบตำรวจ ตอนแรกไม่สนใจเพราะเราไม่มีความคิดในสมองเลย แต่ก็ตัดสินใจลองไปสอบดู ครั้งแรกไปสอบสายอำนวยการ ที่ จังหวัดนครราชสีมา ก็สอบไม่ติด พอครั้งที่สอง เปลี่ยนมาสอบในสายงานป้องกันปราบปราม คราวนี้สอบข้อเขียนผ่าน แต่ต้องไปทดสอบต่างๆ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ที่จังหวัดสระบุรี จึงต้องมาหัดออกกำลังกายที่ทุ่งศรีเมือง ไปว่ายน้ำ จนผ่านได้บรรจุเป็นนายสิบตำรวจที่จังหวัดอ่างทองในที่สุด

Chanut-Thongon-04.jpg

ระหว่างเป็นนายสิบตำรวจ ประจำพื้นที่ จ.อ่างทอง 2 ปี เพื่อนสอบติดนายร้อยได้ ทำให้มีแรงบันดาลใจ ขนาดเพื่อนยังสอบได้ ช่วงนั้นมีการเปิดสอบบุคคลภายในเพื่อเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่ก็สอบไม่ได้ เนื่องจากคะแนนตัดกันสูง คราวนี้ไม่เสียใจเท่าไหร่ เพราะเรามีภูมิคุ้มกันในการท้อแท้แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านั้นสอบหลายสนาม เลยตั้งใจไว้ว่าสักวันหนึ่งเราจะเป็นนายร้อยให้ได้ 

ต่อมามีการเปิดรับสมัครบุคคลภายใน วุฒิปริญญาโท เพื่อทำหน้าที่อาจารย์ ซึ่งเปิดรับแค่ 30 ตำแหน่ง เท่านั้น พี่ที่ทำงานชวนไปสอบเป็นเพื่อน และพูดว่า "มีวุฒิโทไม่ได้มีเอาไว้แปะฝาบ้านนะ ยังใช้ทำอย่างอื่นได้" ตอนนั้นมีคนสมัคร 7 พันกว่าคน ถึงวันประกาศผล พี่โทรมาดีใจด้วย ตอนแรกไม่เชื่อนึกว่าพี่อำ แต่ไปเปิดดูเลยดีใจมาก เพราะการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร เป็นความใฝฝันของนายสิบตำรวจทุกนาย ต่อมาได้รับการบรรจุในตำแหน่ง อาจารย์ (สบ 1) ศฝร.บช.น. ภาควิชาบริหารทั่วไป

ปี พ.ศ.2564 ดำรงตำแหน่งอาจารย์ (สบ 1) ศฝร.บช.น. ภาควิชาบริหารงานตำรวจ พร้อมกับได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศเป็นพันตำรวจตรี  ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ได้รับตำแหน่ง อาจารย์ (สบ 2) กอจ. ศฝร.บช.น.

Chanut-Thongon-05.jpg

ก่อนปิดการสัมภาษณ์ ว่าที่ พ.ต.ต.ชนุตม์ ทองอ่อน "สารวัตรต๊ะ" กล่าวกับไกด์อุบลว่า ชีวิตมาถึงวันนี้ได้ รู้สึกดีใจมาก เนื่องจากตั้งแต่เด็กๆ จะคิดเสมอว่า ตัวเองเรียนไม่เก่ง สอบแข่งขันก็สู้คนอื่นไม่ได้ จนเมื่อเริ่มทำงาน ตั้งเป้าหมายในชีวิต และพยายามเดินไปตามความฝัน แม้จะผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หากเรายังมีความพยายามอยู่ สักวัน ความสำเร็จอาจจะมาเป็นของเราบ้างก็ได้ จากเด็กที่ผลการเรียนรั้งท้ายของห้อง ยังสามารถต่อสู้แข่งขันจนมาถึงวันนี้ได้ จากคนที่แม่เป็นห่วงที่สุดในบรรดาพี่น้อง ยังทำให้แม่ภาคภูมิใจกับลูกคนนี้ได้ "ต๊ะ" ว่าที่ พ.ต.ต.ชนุตม์ ทองอ่อน

Chanut-Thongon-06.jpg